เลือก สว่าน มาใช้สักตัว!
ในงานที่ต้องการเจาะวัสดุต่างๆ เช่น ไม้ เหล็ก โลหะอื่นๆ หรือแม้กระทั่ง คอนกรีต ยังไงเราก็คงหนีไม่พ้นที่จำเป็นต้องใช้สว่านในการเจาะทำรู ซึ่งในความเป็นจริงสว่าน มีจำหน่ายมากมายหลายแบบ ทั้งไฟฟ้าที่ใช้มอเตอร์แบบ AC หรือแบบไร้สายที่ใช้พลังงานแบบ มอเตอร์ DC
สว่านไฟฟ้า เป็นสว่านที่ใช้พลังงานจากไฟบ้านโดยตรง โดยมีสายไฟสำหรับเชื่อมระหว่างสว่านเข้ากับปลั๊กไฟ ซึ่งทำให้การทำงานนอกพื้นที่หรือตามไซต์งานต่างๆ ไม่สะดวก เมื่อต้องนำสว่านไปเจาะในหลายๆที่ต่างไซต์งาน และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของสายไฟที่เชื่อมกับสว่านอีกด้วย นี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้สว่านไร้สายที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ สว่านไร้สายมีทั้งสว่านไร้สายธรรมดา สว่านไร้สายกระแทก และสว่านโรตารี่ไร้สาย ซึ่งสว่านไร้สายใช้พลังงานจากแบตเตอรี่มาเป็นพลังงานสำหรับการใช้งาน ของตัวมอเตอร์สว่าน ซึ่งแบตเตอรี่ที่ใช้กับเครื่องมือไร้สายหรือสว่านไร้สายสามารถชาร์จแบตเตอรี่ เพื่อนำกลับไปใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน อีกทั้งแบตเตอรี่ยังมีการพัฒนาใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้าไปช่วยทำเครื่องชาร์จและแบตเตอรี่ชาร์จได้เร็วและทำให้แบตเตอรี่เย็นตัวไปพร้อมกับการชาร์จ สว่านไร้สาย จึงเหมาะใช้งานได้หลากหลาย ไม่มีสายไฟ และมอเตอร์สว่านไร้สาย ยังมีทั้งแบบมอเตอร์แปรงถ่าน และมอเตอร์บัสเลส หรือมอเตอร์ไร้แปรงถ่าน ช่วยลดปัญหาแปรงถ่านหมด และประสิทธิภาพยังสูงในขณะที่ขนาดมอเตอร์เล็กลงด้วย
สว่านไร้สาย มีรูปแบบไหนบ้าง
เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ การใช้เครื่องมือไร้สายจึงง่ายขึ้น ซึ่งรวมถึงสว่านไร้สายที่ประสิทธิภาพสูงมากกว่าตอนที่มันสร้างขึ้นมาในยุคแรก ทำให้เมื่อเจาะวัสดุ เช่นคอนกรีต หิน อิฐ และปูนซีเมนต์ ได้แทบไม่ต่างกับสว่านไฟฟ้า แม้โดยทั่วไปในบ้านเราจะนิยมใช้สว่านแบบมีสายมากกว่า แต่เราเชื่อว่าอีกไม่นาน สว่านไร้สายน่าจะได้รับความนิยมแซงหน้าไปเรื่อยๆ
สว่านไร้สาย (Cordless Drill/Driver)
ส่วนใหญ่ใช้เพื่อเจาะรู หรือขันสกรู ลงในวัสดุเช่น ไม้ โลหะ และพลาสติก เป็นสว่านที่ขนาดกำลังดีและเล็กที่สุด
สว่านกระแทกไร้สาย (Cordless Hammer Dril)
คุณสมบัติ คล้ายกับสว่านไร้สายที่เราระบุไว้ข้างต้น แต่จะมีการตั้งค่าโหมดกระแทก ทำให้ช่วยในการเจาะลงในวัสดุที่แข็ง เช่นคอนกรีต และอิฐ ปูน โดยบริบทของดอกสว่านนอกจาก จะหมุนเพื่อทำการเจาะแล้ว ยังมีการตอกแบบกระแทก ที่ช่วยผ่อนกำลัง ให้ดอกสว่านเข้าและออกจากรู ซึ่งคล้ายกับการสกัด
สว่านโรตารี่ไร้สาย (Cordless Rotary Hammers)
สว่านเจาะกระแทกระดับมืออาชีพหรือสำหรับงานหนัก ด้วยกลไกลการกระแทกที่ต่างกับสว่านกระแทก สว่านโรตารี่ไร้สายจึงสามารถเจาะ คอนกรีตได้ดีกว่าสว่านกระแทก โดยใช้พลังงานผู้เจาะที่น้อยกว่า
ไขควงกระแทกไร้สาย (Cordless Impact Drivers)
เครื่องมือประเภทนี้ ในยุคที่สว่านยังใช้ไฟฟ้า ไขควงกระแทกแบบนี้ยังไม่เป็นที่นิยมเท่าใดนัก แต่เมื่อมาปัจจุบันอาจจะเป็นเครื่องมือพระเอกของใครหลายๆคนเลยก็ได้ และอาจจะนับว่าเป็นพี่น้องกับสว่านไร้สาย ซึ่งยังมีหลายคนอาจจะยังสับสนกับมันเนื่องจากหน้าตาใกล้เคียงกัน โดยเราจะเรียกว่าไขควงไฟฟ้า หรือไขควงกระแทก โดยทั่วไปประสิทธิภาพในการเจาะ อาจจะทำได้ไม่ดีเท่าสว่าน เนื่องจากไขควงกระแทกได้ถูกออกแบบมาเพื่อขันสกรู หรือคลายสลักเกลียวเท่านั้น ซึ่งมันก็ทำได้อย่างเยี่ยมยอดเช่นกัน
เลือก สว่านไร้สาย ต้องพิจารณาอะไรบ้าง?
ในท้องตลาดมีสว่านไร้สายหลายแบบ ให้เลือก เราจึงควรรู้ถึงสิ่งที่ต้องต้องพิจารณา เลือกสว่านไร้สายซักเครื่อง ให้เหมาะกับประเภทการใช้งาน ขนาดของสว่านไร้สาย ว่าสามารถจับดอกสว่านได้เท่าใด น้ำหนักเท่าใด
คุณสมบัติที่ต้องดูเมื่อเลือกซื้อ สว่านไร้สาย
สำหรับสว่านไร้สาย สิ่งที่ต้องดู พิจารณา คือ แรงบิดของสว่าน ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีแรงบิดที่แตกต่างกัน และสว่านไร้สายบางรุ่นจะมีฟังชั่นพิเศษของสว่านไร้สาย ทำให้สว่านไร้สาย โดดเด่นใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น
1. พลังงานแบตเตอรี่ ของสว่านไร้สาย (Battery Power)
- แบตเตอรี่และเครื่องชาร์จสำหรับสว่านไร้สาย แต่ละยี่ห้อใช้แทนกันได้ไหม
- แบตเตอรี่ เครื่องมือช่างไฟฟ้าใช้งานได้กี่ปี
ไม่ว่าคุณจะใช้งาน สว่านไร้สายเพื่อจะเจาะเหล็กหรือจะเจาะลงไปในคอนกรีตก็ตาม การมีแบตเตอรี่ที่ทรงพลังสามารถทำงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะงานหนัก ที่อยู่นอกเหนือการใช้งานพื้นฐาน ยิ่งการขุดเจาะแบบพิเศษที่เป็นงานหนักหนักด้วยแล้ว มันอาจจะทำให้แบตเตอรี่ของคุณหมดภายในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น ดังนั้นการเจาะคอนกรีตจะต้องใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดแอมป์และโวลต์หรือความจุที่มากกว่าปกติ ซึ่งแบตเตอรี่ทั่วไปมีให้เลือกตั้งแต่ 10.8 – 40 โวลต์ แต่ถึงอย่างนั้นส่วนมากนิยมใช้ขนาด 12 – 18 โวลต์ในการทำงาน แบตเตอรี่แรงดันต่ำจะทำงานได้คล่องแคล่วกว่า เพราะน้ำหนักน้อยกว่า สว่านไร้สายในท้องตลาดนั้นมีจำหน่ายทั้งตัวเปล่าที่ไม่มีแบตเตอรี่ (สำหรับคนที่มีแบตเตอรี่อยู่แล้ว) หรือมาพร้อมแบตเตอรี่และแท่นชาร์จ ซึ่งคุณสามารถเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม ซึ่งขึ้นอยู่กับงบประมาณต้นทุน แต่อย่างน้อยควรมีแบตเตอรี่ 1 ก้อนสำหรับการทำงานที่ไม่มาก แบตเตอรี่ 2 ก้อนสำหรับงานที่หนักขึ้นและสามารถเปลี่ยนและทำงานได้ต่อเนื่อง
2. ประเภทของดอกสว่าน (Type of Drill Bit)
การเลือกดอกสว่านที่เหมาะสม จะเป็นส่วนสำคัญของงาน คุณควรใช้ดอกสว่านที่เหมาะกับงาน เช่นต้องการเจาะไม้ควรใช้ดอกสว่านเจาะไม้ จะช่วยให้การเจาะมีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่ควรใช้ดอกสว่านผิดประเภท เพราะทำให้การเจาะไม่มีประสิทธิภาพ หรืออาจจะสามารถเจาะได้ แต่คมของดอกสว่านจะลดลงอย่างรวดเร็ว
ดอกสว่าน มีหลายขนาดให้เลือก แต่ช่างส่วนมากนิยมใช้สว่านขนาดขนาด 6.5, 8, 10 และ 12 มม. เพราะเป็นขนาดที่สว่านไร้สายมักนิยมใช้กัน(หัวของสว่านไร้สายส่วนมากขนาดไม่เกิน 12 มม.) แต่ดอกกสว่านมีให้เลือกหลายแบบ แต่สำหรับดอกสว่านที่ดี ทนความร้อนจากการทำงาน หรือเจาะวัสดุที่มีความหนา ควรเลือกใช้ดอกสว่าน ทังเสตนคาร์ไบด์ เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และเพิ่มความเร็วในการทำงาน
3. ตั้งค่าแรงบิดสว่านไร้สาย (Drill Torque Settings)
แรงบิดของสว่าน เป็นส่วนที่ปรับความเร็วในการหมุนของหัวสว่าน เพื่อปรับให้เข้ากับวัสดุที่เจาะ และทำให้ดอกสว่านหมุนทำงานได้ด้วยพลังที่มากขึ้น ตามแรงบิดที่ปรับ
หากต้องการแรงบิดที่เหมาะสมสำหรับมือใหม่ ควรศึกษา หรือดูคำแนะนำได้จากคู่มือ หรือใช้สว่านไร้สายทดลองเจาะวัสดุนั้นเลยที่ตัวแทนจำหน่าย พร้อมกับปรับแรงบิดให้เข้ากับวัสดุนั้น
4. ปรับโหมดสว่านไร้สาย (Hammer Action)
สว่านกระแทกไร้สาย เป็นสว่านที่สามารถปรับโหมดการใช้งานได้ ซึ่งบางตัวไม่สามารถปรับโหมดการทำงานได้ ต้องดูฟังก์ชั่นของสว่านรุ่นนั้นๆ ซึ่งการปรับโหมดของสว่านไร้สาย เป็นข้อดีที่จะช่วยการเจาะของสว่านไร้สายรุ่นั้นๆให้ทำงานได้ประสิทธิภาพมากขึ้น เช่นโหมดเจาะธรรมดา จะเป็นการหมุนของดอกสว่านเท่านั้น และอาศัยคมของดอกสว่านในการเจาะ ส่วนโหมดกระแทก เป็นโหมดที่มีอัตราการกระแทกที่สูงกว่าโหมดเจาะธรรมดา ซึ่งโหมดเจาะกระแทก จะอาศัยอาการหมุนของดอกสว่านและแรงกระแแทกที่ได้จากเฟืองของสว่านกระแทก หรือดอกสว่านจะหมุนทำงานพร้อมกับแรงกระแทกที่ดอกสว่านได้รับจากกลไกของสว่านกระแทก
โดยสรุป การเลือกซื้อสว่าน สิ่งที่ต้องคำนึงหรือพิจารณาก่อนซื้อ คือ แรงดันของแบตเตอรี่ ความจุของแบตเตอรี่ที่ต้องการใช้งาน
เพราะความจุของแบตเตอรี่ (Ah.) คือเวลาที่สามารถทำงานได้ของสว่าน
แรงบิดของสว่านที่เหมาะสมกับวัสดุที่จะนำสว่านไปเจาะทำงาน (Nm.) โหมดของสว่านก็เป็นส่วนที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายของการทำงานได้ และสุดท้ายขนาดดอกสว่านที่สว่านสามารถจับได้ ซึ่งเป็นส่วนที่หมายถึงขนาดของรูที่ต้องการเจาะนั้นเอง